ดอกเห็ดแครง

เห็ดแครง หรือ เห็ดแก้น (ชื่อเรียกทางภาคเหนือ) เห็ดมะม่วง(ภาคกลาง) นอกจากรสชาติที่อร่อย มีเอกลักษณ์ต่างจากเห็ดชนิดอื่นแล้ว คุณค่าทาง โภชนาการในเห็ดแครง มีสูงกว่าเห็ดหลายๆประเภทที่เรานิยมทานกัน จากตารางจะเห็นว่า ทั้งโปรตีน แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินบีต่างๆ เห็ดแครงมีปริมาณสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด และยังเป็นแหล่งพลังงานที่ดีแต่มีปริมาณไขมันต่ำเมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์ นอกจากนั้น เห็ดแครง

“เห็ดแครง”ที่่เราเก็บกันทั่วไปตามขอนยางและด้วยรสชาติที่ถูกปาก ไม่ว่าจะแกงกะทิ เห็ดแครงหมก แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า”เห็ดแครง”ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเห็ดหนึ่งในไม่กี่ชนิดที่โดดเด่นด้วยสรรพคุณทางยา จนต่างประเทศหันมาวิจัยเห็ดชนิดนี้กันอย่างจริงจัง เช่น ประเทศญี่ปุ่นที่มีการสกัดยาต้านมะเร็งจากเห็ดแครง ด้วยตัวเห็ดแครงเองนั้นมีสารที่เรียกว่า Schizophyllan (B 1-33 – glucan) ซึ่งเป็นเบต้ากลูแคนชนิดหนึ่ง ที่มีสรรพคุณยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง อีกทั้งยังไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้อย่างดี

เรามา พิจารณาความเหมาะสมตัวเรากับการทำเห็ดแครง กันครับ ลักษณะการออกดอกของเห็ดแครงจะไม่เหมือนเห็ดนางฟ้าครับ เห็ดแครงเราง่ายกว่าเยอะ เห็ดแครงใช้เวลานับจากกรีดก้อนไปอีก 5-6 วัน(เห็ดแครงใช้กรีดด้านข้างถุง) ก็เก็บได้แล้ว สมมติว่าเรากรีดก้อนวันจันทร์ ประมาณวันอาทิตย์ถัดไปเราก็เก็บดอกได้แล้ว หรือถ้าอยากได้ดอกใหญ่ๆ ก็อาจจะยืดถึงวันจันทร์ก็ได้ แต่ถ้าดอกใหญ่ไปผมไม่ค่อยแนะนำครับ มันจะออกเหนียวๆ เมือกๆ ไม่เด้งๆ เหมือนดอกวัยรุ่น พอเราเก็บดอกรอบแรกเสร็จ ก็รดน้ำต่อไปอีกประมาณ 6 วัน รอบสองก็จะออกมาแต่จะได้ไม่เยอะเท่ากับรอบแรกเพราะอาหารในก้อนได้ถูกใช้ไปเยอะกับรุ่นแรกแล้ว สำหรับดอกรอบ 3 บางที่ก็จะรอเก็บได้ครับ […]